สวัสดีครับ วันนี้ผมจะแชร์ประสบการณ์ที่ผม (ไม่ใช่แค่ผม) ได้ประสบมากับตัวเอง โดยกระทู้นี้ตั้งขึ้นมามีจุดประสงค์เพื่อแชร์ประสบการณ์ของ จขกท เท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ไปในเชิงทำลาย หมิ่นประมาท หรือทำให้เสื่อมเสียแต่อย่างใด ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและพิจารณา
เริ่มเรื่องเลยนะครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อตอนผมอยู่ ม.3 เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 (ตอนนี้ จขกท อยู่ ม.6) ซึ่งตอนนั้นผมเพิ่งสอบปลายภาคเสร็จและเพิ่งจะปิดเทอมระหว่างภาคเรียน หลังจากปิดเทอมเมื่อเดือนกันยายน และเข้าสู่เดือนตุลาคมคุณป้าของผมได้มาชวนผมและน้องสาวไปเที่ยวสะพานมอญ จ.กาญจนบุรี โดยปกติแล้วในช่วงปิดเทอมคุณป้าของผมจะพาผมไปเที่ยว ซึ่งในตอนเด็กๆ คุณป้าของผมก็ได้พาผมเดินทางไปทุกภูมิภาคในประเทศไทย ทำให้ผมรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนั้นมากขึ้น ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ มีคุณป้า คุณลุง พี่ชาย ผม และน้องสาว รวมแล้ว 5 คน โดยวันแรกของการเดินทาง เราออกจากบ้านเมื่อประมาณ ตี4 ตี5 แวะพักกินข้าวระหว่างทางที่ผ่านจังหวัดต่างๆ โดยในตอนเย็นของวันแรกในการเดินทางที่แสนยาวไกลกว่า 600 กิโลเมตร จาก จ.สุราษฎร์ธานี (จขกท เป็นคนสุราษฎร์ธานี) ถึง จ.กาญจนบุรี โดยในตอนนั้นหลังจากถึงตัวเมืองกาญจนบุรีแล้ว คุณลุงผมขับรถหาที่พักทั่วเมืองกาญจน์ แต่ก็ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ จนกระทั่งมาเจอรีสอร์ทที่หนึ่ง (ไม่ขอบอกชื่อ เพราะจำไม่ได้ 555) ซึ่งรีสอร์ทแห่งนี้ ติดอยู่ริมแม่น้ำแคว และรีสอร์ทนี้เป็นหลังๆ หลังนึงมีประมาณสองห้อง ซึ่งทุกคนต่างก็ตกลงที่จะพักที่นี่ เพราะที่นี่สามารถเข้าพักโดยเปิดเป็นห้องได้และในตอนนั้นก็หกโมงเย็นกว่าๆ ใกล้จะค่ำแล้วถ้าไม่พักที่นี่ก็ไม่รู้จะพักที่ไหนและที่พักที่นี่ก็สุดยอด คุณป้า คุณลุง และพี่ชาย นอนคนละหลังกับผม ส่วนผมกับน้องสาว ก็นอนอีกหลังหนึ่ง (คุณป้าของผมเปิดเป็นห้อง แต่ว่าได้คนละหลังกับผม) ซึ่งเมื่อได้ที่พักแล้วก็นำกระเป๋าเดินทางเข้าไปเก็บในห้องที่ได้ หลังจากนั้น คุณลุง คุณป้า ก็พาพี่ชาย ผม และน้องสาวออกไปหาอะไรรับประทานในตัวเมือง และก็ได้ไปเที่ยวทางรถไฟสายมรณะ หลังจากที่เที่ยวในตัวเมืองเสร็จแล้วก็ขับรถกลับที่พัก และทุกคนอาบน้ำเข้านอนเสร็จแล้ว โดยเหตุการณ์ที่ผมจะเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อตอนเที่ยงคืน ผมและน้องสาวเข้านอนเมื่อตอนประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ และพอถึงเที่ยงคืน ผมได้ยินเสียงหินเหมือนโดนใครขว้างมา และหินนั้นก็ถูกขว้างมากระแทกกับผนังห้อง เสียงนั้นดังชัดเจนมาก เหมือนใครขว้างหินมาจริงๆ ผมก็ไม่ออกไปดู เพราะมันดึกมากแล้วมันจะยิ่งอันตราย ซึ่งในตอนนั้นผมก็คิดว่าผีหลอกหรือเปล่า ซึ่งด้วยความที่ผมเป็นคนชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และผมก็เป็นเด็กในเมือง ผมก็เลยไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็น ไสยศาสตร์ โฮวเห้ง โชคชะตา
ดูดวง หรือเรื่องอะไรที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ (แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ดูหมิ่น) ถึงแม้ว่าจะคิดว่าผีหลอก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว กลัวแค่ว่าเที่ยงคืนแล้วใครมาขว้างอะไร หลังจากที่ได้ยินเสียงนั้นอยู่สักพัก น้องสาวก็ปลุกผม และบอกว่าใครมาขว้างอะไรพี่ออกไปดูหน่อย ผมก็เลยบอกให้น้องรออยู่ในห้อง ผมเปิดไฟหน้าห้องพัก แล้วออกไปดูข้างห้องว่ามีใครมาขว้างอะไร ซึ่งผมก็ได้แต่ดูหน้าห้องและข้างห้อง ไม่ได้ออกไปดูด้านหลัง เพราะว่ามีพุ่มไม้หนาทึบ และหลังจากดูไปประมาณ 2-3 นาที ไม่พบอะไรก็กลับเข้าห้อง และปิดไฟนอน ผมก็ยังได้ยินเสียงนั้นอยู่สักพักนึงแล้วเสียงก็หายไป ซึ่งก่อนหน้านี้และหลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้น จนถึงตอนนี้ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าเสียงนั้นคืออะไร
และนี่คือประสบการณ์ที่ผมจะมาแชร์ให้ทุกท่านได้รับฟัง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและพิจารณานะครับ สำหรับวันนี้เอาแค่นี้ก่อน ถ้าหากมีประสบการณ์ในเรื่องไหนอีกจะมาแชร์ให็ได้รับฟังกันนะครับ
เหตุการณ์เมื่อครั้งที่ผมไปเที่ยวกับญาติๆ
เริ่มเรื่องเลยนะครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อตอนผมอยู่ ม.3 เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 (ตอนนี้ จขกท อยู่ ม.6) ซึ่งตอนนั้นผมเพิ่งสอบปลายภาคเสร็จและเพิ่งจะปิดเทอมระหว่างภาคเรียน หลังจากปิดเทอมเมื่อเดือนกันยายน และเข้าสู่เดือนตุลาคมคุณป้าของผมได้มาชวนผมและน้องสาวไปเที่ยวสะพานมอญ จ.กาญจนบุรี โดยปกติแล้วในช่วงปิดเทอมคุณป้าของผมจะพาผมไปเที่ยว ซึ่งในตอนเด็กๆ คุณป้าของผมก็ได้พาผมเดินทางไปทุกภูมิภาคในประเทศไทย ทำให้ผมรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนั้นมากขึ้น ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ มีคุณป้า คุณลุง พี่ชาย ผม และน้องสาว รวมแล้ว 5 คน โดยวันแรกของการเดินทาง เราออกจากบ้านเมื่อประมาณ ตี4 ตี5 แวะพักกินข้าวระหว่างทางที่ผ่านจังหวัดต่างๆ โดยในตอนเย็นของวันแรกในการเดินทางที่แสนยาวไกลกว่า 600 กิโลเมตร จาก จ.สุราษฎร์ธานี (จขกท เป็นคนสุราษฎร์ธานี) ถึง จ.กาญจนบุรี โดยในตอนนั้นหลังจากถึงตัวเมืองกาญจนบุรีแล้ว คุณลุงผมขับรถหาที่พักทั่วเมืองกาญจน์ แต่ก็ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ จนกระทั่งมาเจอรีสอร์ทที่หนึ่ง (ไม่ขอบอกชื่อ เพราะจำไม่ได้ 555) ซึ่งรีสอร์ทแห่งนี้ ติดอยู่ริมแม่น้ำแคว และรีสอร์ทนี้เป็นหลังๆ หลังนึงมีประมาณสองห้อง ซึ่งทุกคนต่างก็ตกลงที่จะพักที่นี่ เพราะที่นี่สามารถเข้าพักโดยเปิดเป็นห้องได้และในตอนนั้นก็หกโมงเย็นกว่าๆ ใกล้จะค่ำแล้วถ้าไม่พักที่นี่ก็ไม่รู้จะพักที่ไหนและที่พักที่นี่ก็สุดยอด คุณป้า คุณลุง และพี่ชาย นอนคนละหลังกับผม ส่วนผมกับน้องสาว ก็นอนอีกหลังหนึ่ง (คุณป้าของผมเปิดเป็นห้อง แต่ว่าได้คนละหลังกับผม) ซึ่งเมื่อได้ที่พักแล้วก็นำกระเป๋าเดินทางเข้าไปเก็บในห้องที่ได้ หลังจากนั้น คุณลุง คุณป้า ก็พาพี่ชาย ผม และน้องสาวออกไปหาอะไรรับประทานในตัวเมือง และก็ได้ไปเที่ยวทางรถไฟสายมรณะ หลังจากที่เที่ยวในตัวเมืองเสร็จแล้วก็ขับรถกลับที่พัก และทุกคนอาบน้ำเข้านอนเสร็จแล้ว โดยเหตุการณ์ที่ผมจะเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อตอนเที่ยงคืน ผมและน้องสาวเข้านอนเมื่อตอนประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ และพอถึงเที่ยงคืน ผมได้ยินเสียงหินเหมือนโดนใครขว้างมา และหินนั้นก็ถูกขว้างมากระแทกกับผนังห้อง เสียงนั้นดังชัดเจนมาก เหมือนใครขว้างหินมาจริงๆ ผมก็ไม่ออกไปดู เพราะมันดึกมากแล้วมันจะยิ่งอันตราย ซึ่งในตอนนั้นผมก็คิดว่าผีหลอกหรือเปล่า ซึ่งด้วยความที่ผมเป็นคนชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และผมก็เป็นเด็กในเมือง ผมก็เลยไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็น ไสยศาสตร์ โฮวเห้ง โชคชะตา
ดูดวง หรือเรื่องอะไรที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ (แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ดูหมิ่น) ถึงแม้ว่าจะคิดว่าผีหลอก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว กลัวแค่ว่าเที่ยงคืนแล้วใครมาขว้างอะไร หลังจากที่ได้ยินเสียงนั้นอยู่สักพัก น้องสาวก็ปลุกผม และบอกว่าใครมาขว้างอะไรพี่ออกไปดูหน่อย ผมก็เลยบอกให้น้องรออยู่ในห้อง ผมเปิดไฟหน้าห้องพัก แล้วออกไปดูข้างห้องว่ามีใครมาขว้างอะไร ซึ่งผมก็ได้แต่ดูหน้าห้องและข้างห้อง ไม่ได้ออกไปดูด้านหลัง เพราะว่ามีพุ่มไม้หนาทึบ และหลังจากดูไปประมาณ 2-3 นาที ไม่พบอะไรก็กลับเข้าห้อง และปิดไฟนอน ผมก็ยังได้ยินเสียงนั้นอยู่สักพักนึงแล้วเสียงก็หายไป ซึ่งก่อนหน้านี้และหลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้น จนถึงตอนนี้ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าเสียงนั้นคืออะไร
และนี่คือประสบการณ์ที่ผมจะมาแชร์ให้ทุกท่านได้รับฟัง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและพิจารณานะครับ สำหรับวันนี้เอาแค่นี้ก่อน ถ้าหากมีประสบการณ์ในเรื่องไหนอีกจะมาแชร์ให็ได้รับฟังกันนะครับ